• November 21, 2024
ปี 2568 ปีนักษัตรอะไร

ปี 2568 ปีนักษัตรอะไร? รู้จักปีมะเส็งและเคล็ดลับเสริมดวง

ปี 2568 ตรงกับปีนักษัตรมะเส็ง เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้ที่เกิดในปีนักษัตรนี้ และผู้ที่อยู่ในราศีอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

Read More
ปีชง 2568

ปีชง 2568 คำทำนายและแนวทางรับมือ

ปีชง 2568 เป็นคำที่ใช้เรียกปีที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความไม่ราบรื่นหรือโชคร้ายสำหรับบุคคลบางกลุ่มตามความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน โดยปีชงในปี 2568 นี้ตรงกับปีขาล หรือปีเสือ

Read More
วันขอเงินพระจันทร์

วันขอเงินพระจันทร์: วันมงคลเรียกทรัพย์ตามความเชื่อ

วันขอเงินพระจันทร์ หรือ วันอมาวสี เชื่อกันว่าพระจันทร์จะมีพลังงานที่เข้มข้นเป็นพิเศษ และเป็นวันที่เหมาะแก่การขอพรเรื่องเงินทอง

Read More
ขนมมไหว้พระจันทร์

ขนมไหว้พระจันทร์ สัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเชื่อ

ขนมไหว้พระจันทร์ ไม่ใช่แค่ขนมหวานธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความหมายลึกซึ้ง

Read More
วันขอเงินพระจันทร์

วันขอเงินพระจันทร์: ความเชื่อและพิธีกรรมดึงดูดโชคลาภ

“วันขอเงินพระจันทร์” หรือ “วันอมาวสี” เป็นวันที่เชื่อกันว่าพระจันทร์มีพลังมากที่สุด เหมาะแก่การขอพรและบูชาเพื่อเสริมดวงชะตาและโชคลาภ

Read More
ดาวพฤหัสย้าย 2567

ดาวพฤหัสย้าย 2567: เตรียมรับความปัง เสริมดวงชะตา รับทรัพย์ รับโชค

ดาวพฤหัสบดี หรือ “ครูใหญ่” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ กำลังจะย้ายออกจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษ ในวันที่ 30 เมษายน 2567 นี้ การย้ายครั้งนี้ ส่งผลต่อดวงชะตาของทุกราศีอย่างไร? เตรียมตัวอย่างไรให้รับแต่สิ่งดีๆ? มาดูกันเลยค่ะ

Read More
ที่มาของวันขอเงินพระจันทร์ และ การเตรียมตัวให้ปังในปี 2566

ที่มาของวันขอเงินพระจันทร์ และ การเตรียมตัวให้ปังในปี 2566

ที่มาของวันขอเงินพระจันทร์ ทำถูกแล้วรวยรับทรัยพ์เข้ากระเป๋าสตางค์ วันขอเงินพระจันทร์ หรือ วันอมาวสี ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำของทุกเดือน เป็นวันแรกของการกำเนิดพระจันทร์ในเดือนใหม่ ตามความเชื่อของคนไทยโบราณเชื่อว่าพระจันทร์เป็นเทพเจ้าแห่งดวงชะตา เป็นผู้ประทานโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นในวันอมาวสีจึงมีการทำพิธีบูชาพระจันทร์เพื่อขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และมีเงินทองไหลมาเทมา ที่มาของความเชื่อนี้สามารถสืบย้อนไปถึงสมัยโบราณของจีนและอินเดีย โดยชาวจีนเชื่อว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าจันทรา หรือ ฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรักและความสวยงาม นอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่อว่าพระจันทร์เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพระจันทร์เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำค้าง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเกษตรเป็นอย่างมาก ส่วนชาวอินเดียเชื่อว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าพระจันทร์ หรือ พระศิวะ ซึ่งเป็นผู้ประทานโชคลาภและความมั่งคั่ง นอกจากนี้ชาวอินเดียยังเชื่อว่าพระจันทร์มีอำนาจในการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายและปกป้องผู้คนจากภัยอันตราย ความเชื่อเรื่องวันขอเงินพระจันทร์ได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยในแต่ละปีจะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางไปขอพรพระจันทร์ในวันอมาวสี พิธีกรรมในการขอพรพระจันทร์ในวันอมาวสีโดยทั่วไป ประกอบด้วยการจุดธูปเทียนบูชาพระจันทร์ การสวดคาถาบูชาพระจันทร์ และการตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์ นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าหากใครได้ทำความสะอาดกระเป๋าเงิน จัดเรียงธนบัตรให้เรียบร้อย งดใช้เงินในกระเป๋าที่ใช้ในการขอพรเป็นเวลา 1 วัน และตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์อย่างตั้งมั่นแล้ว จะทำให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และมีเงินทองไหลมาเทมา อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องวันขอเงินพระจันทร์เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมพิธีกรรมในวันอมาวสีจึงควรทำด้วยความศรัทธาและตั้งมั่นในการขอพร การเตรียมตัวในวันขอเงินพระจันทร์ มีดังนี้ โดยรายละเอียดในแต่ละข้อมีดังนี้ การเตรียมจิตใจให้สงบ ตั้งมั่นในการขอพร สิ่งสำคัญที่สุดในการขอเงินพระจันทร์…

Read More
รวมคาถาเรียกทรัพย์ เกจิอาจารย์ดัง สวดแล้วรวย สวดแล้วปัง ในปีนี้

รวมคาถาเรียกทรัพย์ เกจิอาจารย์ดัง สวดแล้วรวย สวดแล้วปัง ในปีนี้

คาถาเรียกทรัพย์ เป็นคาถาที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยเรียกเงินทอง โชคลาภ เข้ามาให้กับผู้สวดภาวนาได้ คาถาเรียกทรัพย์ที่นิยมสวดกันมีดังนี้ คาถาเรียกทรัพย์ หลวงปู่ทวด พุทธัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหม สัมปะติจฉามิ นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม มิเตภาหุหะติ คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อปาน โอม มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิ จงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อเงิน คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อโต นะโมพุทธายะ…

Read More
ที่มา ของพิธีปลุกเสก ตามความเชื่อโบราณ

ที่มา ของพิธีปลุกเสก ตามความเชื่อโบราณ

ที่มาของพิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ สืบเนื่องมาจากความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณที่เชื่อว่า สรรพสิ่งในโลกนี้มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต หรือสถานที่ต่าง ๆ มนุษย์จึงพยายามหาวิธีที่จะดึงพลังอำนาจเหล่านั้นมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การปลุกเสก พิธีปลุกเสก เป็นพิธีกรรมที่กระทำขึ้นเพื่อบรรจุพลังอำนาจเหนือธรรมชาติให้กับวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้วัตถุหรือสิ่งของเหล่านั้นมีคุณวิเศษตามที่ต้องการ เช่น มีพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นต้น พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักกระทำโดยพระภิกษุหรือผู้ทรงคุณวุฒิทางไสยศาสตร์ โดยผู้ที่ปลุกเสกจะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีความรู้และทักษะในการปลุกเสก เพื่อให้พิธีปลุกเสกสำเร็จลุล่วงและวัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสกนั้นมีพลังอำนาจตามที่ต้องการ ความเชื่อเรื่องพิธีปลุกเสกนั้น ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงให้ความเชื่อถือในพิธีปลุกเสกและนิยมนำวัตถุหรือสิ่งของที่ปลุกเสกแล้วมาบูชาหรือพกติดตัว เพื่อเป็นเครื่องรางของขลังคุ้มครองตนจากอันตรายต่าง ๆ นอกจากนี้ พิธีปลุกเสกยังถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยพิธีปลุกเสกมักจัดขึ้นในงานสำคัญต่าง ๆ เช่น งานบวช งานแต่ง หรืองานมงคลต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี ตัวอย่างพิธีปลุกเสก เป็นบุญตา อัศจรรย์บนท้องฟ้า เมฆเคลื่อนคล้าย “พระกริ่ง” ในพิธีปลุกเสก แห่ยกมือร้องสาธุ

Read More
สายสิญจน์ ผูกข้อมือข้างไหนดี

สายสิญจน์ ผูกข้อมือข้างไหนดี

โดยทั่วไปแล้ว การผูกสายสิญจน์จะผูกข้อมือซ้าย เพราะเป็นแขนขวัญ เป็นแขนที่อ่อนแอใช้งานหนักไม่ได้ เป็นแขนที่น่ารักทะนุถนอม ในทางพระพุทธศาสนานั้น เชื่อว่าแขนซ้ายเป็นแขนที่รับพรจากผู้มีพระคุณ จึงเป็นที่นิยมในการผูกสายสิญจน์ไว้ที่ข้อมือซ้าย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การผูกสายสิญจน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะข้อมือซ้ายเท่านั้น ยังสามารถผูกข้อมือขวาได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์ สำหรับโอกาสในการผูกสายสิญจน์นั้น มักทำกันในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น การผูกสายสิญจน์เป็นการแสดงถึงความยินดีและชื่นชมต่อผู้รับสายสิญจน์ เป็นการมอบพรให้มีความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ การผูกสายสิญจน์ยังเป็นการผูกใจกันระหว่างผู้ให้และผู้รับ เป็นการแสดงความผูกพันและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้น การผูกสายสิญจน์ข้อมือข้างไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์เป็นหลัก ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวแต่อย่างใด

Read More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save