Tag: ความเชื่อ
วันขอเงินพระจันทร์: วันมงคลเรียกทรัพย์ตามความเชื่อ
- admin
- 0
วันขอเงินพระจันทร์ หรือ วันอมาวสี เชื่อกันว่าพระจันทร์จะมีพลังงานที่เข้มข้นเป็นพิเศษ และเป็นวันที่เหมาะแก่การขอพรเรื่องเงินทอง
Read Moreขนมไหว้พระจันทร์ สัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเชื่อ
- admin
- 0
ขนมไหว้พระจันทร์ ไม่ใช่แค่ขนมหวานธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความหมายลึกซึ้ง
Read Moreที่มา ของพิธีปลุกเสก ตามความเชื่อโบราณ
- admin
- 0
ที่มาของพิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ สืบเนื่องมาจากความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณที่เชื่อว่า สรรพสิ่งในโลกนี้มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต หรือสถานที่ต่าง ๆ มนุษย์จึงพยายามหาวิธีที่จะดึงพลังอำนาจเหล่านั้นมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การปลุกเสก พิธีปลุกเสก เป็นพิธีกรรมที่กระทำขึ้นเพื่อบรรจุพลังอำนาจเหนือธรรมชาติให้กับวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้วัตถุหรือสิ่งของเหล่านั้นมีคุณวิเศษตามที่ต้องการ เช่น มีพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นต้น พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักกระทำโดยพระภิกษุหรือผู้ทรงคุณวุฒิทางไสยศาสตร์ โดยผู้ที่ปลุกเสกจะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีความรู้และทักษะในการปลุกเสก เพื่อให้พิธีปลุกเสกสำเร็จลุล่วงและวัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสกนั้นมีพลังอำนาจตามที่ต้องการ ความเชื่อเรื่องพิธีปลุกเสกนั้น ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงให้ความเชื่อถือในพิธีปลุกเสกและนิยมนำวัตถุหรือสิ่งของที่ปลุกเสกแล้วมาบูชาหรือพกติดตัว เพื่อเป็นเครื่องรางของขลังคุ้มครองตนจากอันตรายต่าง ๆ นอกจากนี้ พิธีปลุกเสกยังถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยพิธีปลุกเสกมักจัดขึ้นในงานสำคัญต่าง ๆ เช่น งานบวช งานแต่ง หรืองานมงคลต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี ตัวอย่างพิธีปลุกเสก เป็นบุญตา อัศจรรย์บนท้องฟ้า เมฆเคลื่อนคล้าย “พระกริ่ง” ในพิธีปลุกเสก แห่ยกมือร้องสาธุ
Read Moreสายสิญจน์ ผูกข้อมือข้างไหนดี
- admin
- 0
โดยทั่วไปแล้ว การผูกสายสิญจน์จะผูกข้อมือซ้าย เพราะเป็นแขนขวัญ เป็นแขนที่อ่อนแอใช้งานหนักไม่ได้ เป็นแขนที่น่ารักทะนุถนอม ในทางพระพุทธศาสนานั้น เชื่อว่าแขนซ้ายเป็นแขนที่รับพรจากผู้มีพระคุณ จึงเป็นที่นิยมในการผูกสายสิญจน์ไว้ที่ข้อมือซ้าย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การผูกสายสิญจน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะข้อมือซ้ายเท่านั้น ยังสามารถผูกข้อมือขวาได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์ สำหรับโอกาสในการผูกสายสิญจน์นั้น มักทำกันในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น การผูกสายสิญจน์เป็นการแสดงถึงความยินดีและชื่นชมต่อผู้รับสายสิญจน์ เป็นการมอบพรให้มีความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ การผูกสายสิญจน์ยังเป็นการผูกใจกันระหว่างผู้ให้และผู้รับ เป็นการแสดงความผูกพันและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้น การผูกสายสิญจน์ข้อมือข้างไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์เป็นหลัก ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวแต่อย่างใด
Read More17 ตุลาคม 2566 ราหูย้าย หมอช้าง เผย 2 ราศี เตรียมรับโชค
- admin
- 0
ความเชื่อเกี่ยวกับการย้ายของราหูเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ราหูเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ หมายถึง ดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลในทางลบ มักให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา ฝักใฝ่ในทางด้านมืด ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ การปฏิรูป การแปลงสภาพ การมองโลกในมุมมองใหม่ และความลึกลับ ความเชื่อเกี่ยวกับการย้ายของราหูมีดังนี้ เมื่อราหูย้ายราศี เชื่อกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของผู้ที่เกิดในราศีที่ราหูย้ายเข้ามา การเปลี่ยนแปลงนี้อาจมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของแต่ละบุคคล สำหรับประเทศไทย ราหูจะย้ายราศีจากราศีพฤษภเข้าสู่ราศีเมษ ในวันที่ 30 มีนาคม 2566 เชื่อกันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อประเทศไทยในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าการย้ายของราหูอาจส่งผลต่อบุคคลทั่วไปในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การงาน ความรัก สุขภาพ เป็นต้น สำหรับบุคคลทั่วไปที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการย้ายของราหู อาจปฏิบัติตามความเชื่อต่างๆ ดังนี้ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเกี่ยวกับการย้ายของราหูเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ได้มีผลในทางวิทยาศาสตร์ ผู้ที่เชื่อหรือไม่เชื่อก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดย หมอช้าง ได้เผยคำทำนายแบบเต็ม ๆ ไว้ในยูทูบ หมอช้างทีวี EP พิเศษ | ดาวราหูย้ายราศี…
Read Moreความเชื่อเกี่ยวกับพระราหู พร้อมคาถาบูชา
- admin
- 0
พระราหู เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ หมายถึง ดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลในทางลบ มักให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา ฝักใฝ่ในทางด้านมืด ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ การปฏิรูป การแปลงสภาพ การมองโลกในมุมมองใหม่ และความลึกลับ ในความเชื่อของชาวไทยและชาวฮินดู พระราหูเป็นอสูรกายที่มีตัวเป็นมนุษย์ท่อนบนและท่อนล่างเป็นงู มีหัวเป็นมนุษย์มี 10 หัว มี 28 ตา 20 ปาก มีพาหนะเป็นม้าดำ และถือกระบองเป็นอาวุธ เชื่อกันว่าพระราหูเป็นผู้ทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส โดยเมื่อพระราหูกลืนกินดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ขึ้นบนโลก เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด สงคราม เป็นต้น นอกจากนี้ พระราหูยังถูกมองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่งอีกด้วย เชื่อกันว่าการบูชาพระราหูจะช่วยเสริมดวงในด้านโชคลาภ ความสำเร็จ เงินทอง ความเชื่อเกี่ยวกับพระราหูมีดังนี้ การบูชาพระราหูสามารถทำได้ทุกวัน แต่ส่วนใหญ่นิยมบูชากันในวันพุธตอนกลางคืน โดยบูชาด้วยธูปดำ 8 ดอก เทียนดำ 1 เล่ม ดอกไม้ 9 ดอก ของดำ 8 อย่าง เช่น ไก่ดำ…
Read Moreวันคเณศจตุรถี 31 สิงหาคม 2565 เตรียมของไหว้พระพิฆเนศ
- admin
- 0
วันคเณศจตุรถี วันคเณศจตุรถี หรือวันคล้ายวันเกิดของพระพิฆเนศ เชื่อว่าจะเป็นวันที่พระพิฆเนศจะทรงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่ออวยพรต่อสาวกผู้ภักดี ซึ่งจะตรงกับวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ของถวายพระพิฆเนศ อาจจะเป็นผลไม้ 5 อย่าง ขนม 5 อย่าง หรือชุดปัญจอัมฤตได้แก่ นมสด น้ำตาลสด น้ำผึ้ง เนย โยเกิร์ต (นมเปรี้ยว) ผลไม้สัก 1 ชนิด บทสวดที่ควรภาวนาในวันคเณศจตุรถี เริ่มต้นด้วยการ สวด 108 พระนาม แห่งพระพิฆเนศ เพื่อเป็นการให้เกียรติ และสรรเสริญองค์พระพิฆเนศในช่วงเช้า เพื่อความมงคล และเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นให้ภาวนาบทสวด ดังนี้ โอม คัง คะณะปัตตะเย นะมะหะ (8 จบ) บทคเณศมนตราบทอัญเชิญ โอมปารวตี ปัตตเย ฮารา ฮารา ฮารา มหาเทวา คาชานะนัม ภูตะคะณาธิเสวิตัม กะปิตะชัมพู ผะละจารุภักษะณัม อุมาสุตัม…
Read Moreตารางสีเสื้อมงคลประจำวัน ปรับพื้นดวง เสริมมงคลชีวิต
- admin
- 0
การใส่เสื้อตามสีเสื้อมงคล ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเสริมมงคลให้แก่ชีวิต มีทั้งเรื่องการเงิน การงาน การเรียน และ ช่วยลดเวลาการแต่งตัวได้ทางอ้อม สีเสื้อประจำวันของแต่ละวัน วันอาทิตย์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้ราชสีห์ 6 ตัวป่นเป็นผง จากนั้นจึงห่อด้วยผ้าสีแดง ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระอาทิตย์ มีกายสีแดง วันจันทร์ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้นางฟ้า 15 นางกลายเป็นผงละเอียด จากนั้นจึงห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระจันทร์ มีกายสีเหลืองนวล วันอังคาร พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้กระบือ (ควาย) 8 ตัวกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีแดงหลัว ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระอังคาร มีกายเป็นสีแก้วเพทายซึ่งมีสีชมพู วันพุธ พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้พญาคชสาร (พญาช้าง) 17 เชือกกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระพุธ มีกายเป็นสีแก้วมรกตซึ่งมีสีเขียว วันพฤหัสบดี พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้พระฤๅษี 19 ตนกลายเป็นผง จากนั้นห่อด้วยผ้าสีแสด ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น พระพฤหัสบดี มีกายเป็นสีแสด…
Read More